สมัยนี้การโอนเงิน สามารถทำงานได้ง่าย ไม่ต้องไปที่ธนาคารหรือตู้ ATM ก็สามารถโอนได้โดยการโอนผ่านมือถือผ่านแอพพลิเคชั่นของธนาคารต่างๆที่เรามีบัญชี และในปัจจุบันเราสามารถซื้อสินค้าออนไลน์ได้อย่างสะดวก จ่ายบิล เติมเงิน หรือการโอนเงินในรูปแบบอื่นๆ โดยไม่ใช่การซื้อสินค้าก็มี แต่เมื่อ
การโอนเงินสามารถทำได้ง่ายและสะดวกนั้นก็มีผลเสียตามมา เพราะเรามีโอกาสอาจโดนหลอกให้โอนเงินไปให้มิจฉาชีพสูงมาก แต่บางครั้งเราก็อาจจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อเรา
โดนมิจฉาชีพหลอกให้เราโอนเงินนอกอาจจะเสียเงินยังมีความรู้สึกเสียหน้าและเจ็บใจด้วย ฉะนั้น
เรามีวิธีตามเงินคืนได้ ดังนี้
1. ถ้าโดนหลอกแล้วแล้วให้
พิมพ์หลักฐานทั้งหมดเอาไปแจ้งความ ไม่ว่าจะเป็น ประวัติแชท การประกาศ บัตรประชาชน หมายเลขบัญชี ของคนที่โกงเรา หรือถ้าเสิร์ชแล้วเจอประวัติว่าเคยโกงก็เอาไปด้วย (ทำไมไม่เสิร์ชก่อนนนน)
2. แจ้งความที่โรงพักลงบันทึกประจำวันแล้ว ต้องไปแจ้งที่
"กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับอาชนากรรมทางเทคโนโลยี ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ" แจ้งที่นี่ไว้ด้วยนะ สำคัญมาก
3. ขอหนังสือจากร้อยเวรที่สั่งอายัดบัญชีคนที่โกงเราที่เราโอนเงินไป แล้วไปที่ธนาคาร ซึ่งธนาคารจะจัดการดำเนินเรื่องจัดส่งไปที่ธนาคารสาขานั้น ๆ เอง
4. รอ และระหว่างนี้ก็ช่วยตำรวจสืบร่องรอยด้วยก็ดี นอกจากจะได้เงินคืนก็ได้ตัวคนร้ายที่อาจโกงมาเยอะ
5. คนร้ายจะติดต่อมาเอง เพราะโดนอายัดบัญชี เขากดเงินออกไม่ได้ แต่ยังโอนคืนได้นะ ก็บอกให้โอนคืนมา
6. เมื่อเป็นคดีความ กระบวนการสิ้นสุดแล้ว หากฝ่ายที่โกงปรากฎว่ามีความผิดศาลจะสั่งให้ธนาคารนั้นโอนเงินคืนให้เรา
ใครที่โดนโกงไปแล้ว มีหลักฐานก็รีบจัดการด่วนเลย อย่าปล่อยให้มันอยู่รอดไปโกงคนอื่น ๆ ต่อไปได้ เพราะนับวันจะยิ่งมีคดีเหล่านี้มากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามเราขอแนะนำว่าเช็คก็โอน ค้นหาใน Google ไม่ว่าจะเป็นชื่อ เบอร์โทร หรือข้อมูลอื่นๆของคนที่เราจะโอนเงินให้ ดีกว่ารีบโอนแล้วโดนหลอกนะครับ
แหล่งที่มา : https://www.cosmenet.in.th/cosme-howto/33976/
05 มี.ค. 2563
เข้าชม : 2.81 พัน